ระเบียบโครงการ
ผู้สมัครบวชทุกท่าน จำเป็นต้องอ่านระเบียบโครงการนี้ เพื่อรับทราบข้อมูลของโครงการและยินยอมปฏิบัติตามในทุกข้อ อย่างไม่มีเงื่อนไข
๑). ผู้สมัครบวช เป็นบุคคลที่ตรงตามคุณสมบัติผู้ขอบรรพชาอุปสมบทตามกฎมหาเถรสมาคมได้กำหนดไว้ (รายละเอียดตามรูปกรอบสีเขียว)
๒). ผู้สมัครบวช สามารถบวชจนครบตามระยะเวลาโครงการได้ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มิถุนายน ถึง ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ รวมระยะเวลา ๑ พรรษา ๑ จีวรกาล ๑๔๐ วัน (กรณีเป็นข้าราชการอนุโลมบวชได้ตามระยะเวลาที่ลาบวชแต่ต้องบวชได้ไม่ต่ำกว่า ๑ พรรษา/กรณีนิสิตนักศึกษาอนุโลมบวชได้ตามที่มหาวิทยาลัยปิดเทอม /กรณีท่านใดที่ประสงค์บวชพระช่วงนอกพรรษา ระยะบวชต้องไม่ต่ำกว่า ๓ เดือนหรือไม่มีกำหนดสึก โดยให้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางไลน์โครงการ @buat ) สามารถดูรายละเอียดกำหนดการของโครงการ ได้ที่ หน้ากำหนดการ คลิก!
๓). ผู้สมัครบวชประสงค์บวชพระปฏิบัติธรรมในแนวทางปฏิปทาของพระป่ากรรมฐาน และมีความสมัครใจยินยอมที่จะปฏิบัติตามพระวินัยสงฆ์และระเบียบข้อวัตรของทางวัดอย่างเคร่งครัด ดังนั้นโครงการบวชนี้จึงไม่เหมาะกับผู้ที่จะมาบวชเพื่อพักผ่อน แต่เหมาะกับผู้มีความตั้งใจในการเข้ามาเรียนรู้พระธรรมวินัย ข้อวัตรปฏิบัติ และการปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนาตามแนวทางของพระกรรมฐาน ซึ่งการอยู่ในเพศสมณะไม่ใช่เรื่องสบายเพราะเป็นการทวนกระแสกิเลสของตนเองในทุกๆ ด้าน โดยมีข้อวัตรที่ต้องปฏิบัติในทุก ๆ วัน ดังต่อไป นี้
ข้อวัตรของวัดแสงธรรมวังเขาเขียว
๐๔.๐๐ น. เริ่มทําวัตรเช้า หลังจากทำวัตรเสร็จทําความสะอาดศาลา
๐๖.๐๐ น. ออกบิณฑบาต
๐๗.๐๐ น. บิณฑบาตเสร็จกลับถึงวัด, ขึ้นศาลา, ฟังพระอาจารย์ให้โอวาทก่อนฉัน, ฉันจังหัน(ฉันเช้า), หลังจากฉันเสร็จล้างบาตร, ทําความสะอาดโรงล้างบาตร ศาลาและกุฏิพระอาจารย์, พับเก็บจีวร, แยกย้ายเข้ากุฏิปฏิบัติภาวนาได้ตามอัธยาศัย
๑๒.๓๐ – ๑๔.๐๐ น. ช่วงเวลาที่สามารถมาฉันน้ําปานะที่โรงน้ำร้อนได้
๑๕.๐๐ น. ปัดตาด(กวาดลานวัด), ทําความสะอาดศาลาและกุฏิพระอาจารย์, ล้างห้องน้ําหลังจากนั้นแยกย้ายทําภารกิจส่วนตัว
๑๙.๐๐ น. ทําวัตรเย็น
๒๐.๐๐ – ๒๑.๓๐ น. นั่งภาวนาเปิดกัณฑ์เทศน์องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลังจากนั้นแยกย้ายพักผ่อนหรือภาวนาตามอัธยาศัย แต่สำหรับกรณีที่เป็นวันพระ พระอาจารย์ท่านจะขึ้นเทศน์ให้โอวาท และปฏิบัติภาวนา นั่งสมาธิ เดินจงกรม ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้ามืดของวันใหม่ (เนสัชชิก)
๔). ผู้สมัครบวชจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ บวชฟรี (ส่วนใบรับรองแพทย์หลักฐานการสมัครบวช ต้องออกค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง)
๕). ผู้สมัครบวช เป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นโรคติดต่อหรือโรคประจำตัวร้ายแรง เป็นสุภาพชน มีความประพฤติดี ไม่ติดสารเสพติด เป็นผู้กินง่าย อยู่ง่าย มีความอดทน ไม่เกียจคร้าน
๖). ผู้สมัครบวช ห้ามพกโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดไว้กับตัวขณะบวชพระอยู่ (ข้อห้ามของทางวัด)
๗). ผู้สมัครบวช จะต้องเชื่อฟังและอยู่ในโอวาทของพระอาจารย์ รวมทั้งพระพี่เลี้ยงอย่างเคร่งครัด ที่วัดจะปฏิบัติตามหลักพระวินัย เคารพในหลัก “อาวุโสภันเต” คือ พระที่บวชภายหลังต้องให้ความเคารพพระที่บวชมาก่อน ถึงแม้ว่าอายุของพระบวชก่อนจะน้อยกว่าก็ตาม พระบวชในโครงการถือเป็นพระนวกะ(พระบวชใหม่) พึงให้ความเคารพต่อพระในวัดที่อยู่มาก่อน ไม่ถือตนว่ายากสอนยาก ถือตนว่าอายุมากกว่า
๘). โครงการจัดบวชที่วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อความสะดวกกับทางวัดและทางโครงการ จึงขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผู้ที่บวชพระแล้วขอย้ายวัดในภายหลังทุกกรณี พระใหม่จะต้องอยู่ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติกับทางวัดแสงธรรมวังเขาเขียวอย่างน้อย ๕ พรรษาเสียก่อน เมื่ออยู่จนครบเวลา ๕ พรรษา ได้พ้นนิสัยจากความเป็นพระใหม่ตามพระธรรมวินัยแล้ว จึงอาจย้ายวัดเพื่อไปยังสำนักอื่นได้
๙). เมื่อบวชครบตามระยะเวลาโครงการแล้ว ถ้าท่านใดประสงค์บวชต่อยาว สามารถบวชต่อได้ ไม่บังคับสึก
๑๐). ทางโครงการขอสงวนสิทธิ์ ไม่รับบุคคลผู้มีประวัติการรักษาด้านจิตเภท (Schizophrenia) , โรคซึมเศร้า , บุคคลต่างศาสนา และบุคคลผู้มีประวัติอาชญากรรม
๑๑). การสมัครบวช กรอกแบบฟอร์มสมัครออนไลน์ให้ครบถ้วนตามความเป็นจริง พร้อมแนบหลักฐาน ๑).รูปถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ๒).รูปถ่ายผู้สมัครหน้าตรงชัดเจน ๓).รูปถ่ายใบรับรองแพทย์ที่มีผลตรวจสุขภาพทั่วไป, HIV, ไวรัสตับอักเสบบี และสารเสพติดด้วย
๑๒). สิ่งที่ผู้สมัครบวชต้องเตรียมมาเองตอนเข้าวัด คือ ชุดขาว ๒-๓ ชุดสำหรับอยู่ผ้าขาวสองสัปดาห์ก่อนวันบวช และของใช้ส่วนตัว นอกนั้นทางโครงการจะจัดเตรียมมาให้ทั้งหมด (กรณีผู้สมัครบวชไม่มีชุดขาว สามารถแจ้งทางโครงการได้)
๑๓). ทางโครงการจัดเตรียมอัฐบริขารผ้าไตรจีวรต่าง ๆ ไว้ให้ผู้สมัครบวชทุกคน ผู้สมัครบวชท่านใดที่ประสงค์จัดเตรียมมาเอง จำเป็นต้องปรึกษาสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน เพื่อให้อัฐบริขารที่เตรียมมาตรงตามพระวินัยและระเบียบของทางวัดป่ากรรมฐาน
๑๔). โครงการบวชนี้เกิดขึ้นได้จากความเมตตาของพระอาจารย์ และด้วยกำลังจิตศรัทธาของบุคคลทั่วไปร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบรรพชาอุปสมบทหมู่
๑๕). ข้อมูลวัดเบื้องต้นที่ผู้สมัครบวชพึงรับทราบก่อนตัดสินใจสมัครบวช กุฏิที่พักอาศัยเป็นเพียงกระต๊อปมุงจาก ไม่มีไฟฟ้าใช้ภายในกุฏิ, พระฉันข้าวมื้อเดียวในบาตร (ตอนบ่ายมีน้ำปานะให้ฉัน), พระไม่จับเงิน (เป็นพระวินัย), พระทุกรูปภายในวัดห้ามพกโทรศัพท์มือถือเด็ดขาด เป็นกฏข้อห้ามของวัด , ในทุกวันพระ ทางวัดจะปฏิบัติธรรมเนสัชชิกตลอดคืน (ภาวนานั่งสมาธิ เดินจงกรม จนถึงเช้ามืดวันใหม่) , วันพิธีบวชเป็นพิธีเรียบง่ายตามแนวทางพระป่า ไม่มีรำวงแห่ดนตรี ไม่มีโปรยทาน, การเป็นพระอยู่ในวัดกรรมฐาน ท่านมักมีปฏิปทาให้พระรู้จักสังเกตและเรียนรู้ศึกษาด้วยตนเอง หากสงสัยส่วนใดให้เข้าไปสอบถาม จะไม่มีการสอนเป็นหลักสูตรคอร์สอบรม แต่ให้เน้นการปฏิบัติภาวนาด้วยตนเอง มีการอบรมฟังธรรมะจากพระอาจารย์ตามวาระ หากภาวนาติดขัดอย่างไรให้เข้าไปสอบถามพระอาจารย์, พระอาจารย์เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ทุกคนต่างให้ความเคารพเป็นอย่างสูง พึงปฏิบัติตามคำสั่งและเชื่อฟังท่านอย่างเคร่งครัด, การบวชพระในโครงการครั้งนี้ จะมีพระบวชร่วมกันมากจำนวนหนึ่ง ดังนั้นความสัปปายะในช่วงระยะเวลาโครงการอาจจะมีไม่มากเท่าหลังจบระยะโครงการไปแล้ว , วัตถุประสงค์หลักของโครงการเพื่อให้ผู้สมัครบวชได้นิสัยทางธรรมอันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนและส่วนรวมโดยบวชพระเพียงระยะเวลาอันสั้นแค่สี่เดือนครึ่งตามระยะเวลาโครงการที่กำหนด ๒๙ มิ.ย. – ๑๖ พ.ย.๖๗(๑ พรรษา ๑ จีวรกาล) แต่สำหรับปฏิปทาของพระกรรมฐานจริงๆนั้น ท่านออกบวชเพื่อความพ้นทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิดโดยถ่ายเดียว ท่านใดที่สามารถต่อยอดนิสัยทางธรรมบวชพระโดยไม่มีกำหนดลาสิกขาได้ ก็นับเป็นวัตถุประสงค์สูงสุดของโครงการซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของแต่ละปัจเจกบุคคลไป, สุดท้าย พระในวัดเคร่งครัดพระวินัย ๒๒๗ ข้อ ผู้สมัครบวชจึงควรอ่านทำความเข้าใจศีล ๒๒๗ ข้อในเบื้องต้นไว้ก่อนด้วย สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ หน้าการบวช คลิก!
คำถามที่มักพบบ่อย
ได้ ในทุกวันพระจะที่มีการปฏิบัติภาวนา นั่งสมาธิ/เดินจงกรม ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้ามืดของวันใหม่(เนสัชชิก) สิ่งนี้ย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ไม่เคยฝึกหัดภาวนามาก่อน จึงต้องใช้ความอดทนและความพยายามพอสมควรในการฝึกหัด เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกๆ แต่หากมีความตั้งใจจริง การปฏิบัติธรรมเนสัชชิกก็จะสามารถทำได้โดยง่ายขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับไป นอกจากนี้การปฏิบัติธรรมเนสัชชิกทุกวันพระดังกล่าว จะมีสหธรรมมิกทั้งพระเก่าในวัด พระบวชใหม่ในโครงการ แม่ชี โยม ร่วมปฏิบัติธรรมด้วยกันที่พระมหาเจดีย์ฯ สิ่งแวดล้อมอันรายล้อมไปด้วยผู้ปฏิบัติภาวนาทั้งวัดย่อมเป็นสิ่งเสริมกำลังใจให้สามารถปฏิบัติได้โดยง่าย ขอให้มีความตั้งใจฝึกหัดปฏิบัติภาวนาประคองสติด้วยความเพียร สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่อุปสรรคที่น่ากังวลต่อการบวชในโครงการฯ ใดๆ เลย
ใช่ โครงการบวชวัดป่า เปิดรับสมัครผู้มีความตั้งใจบวชพระปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระกรรมฐานโดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายๆ ใดจากผู้สมัครบวช ซึ่งค่าใช้จ่ายของทางโครงการได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบวชหมู่พระผ่านทาง บัญชีบริจาคทำบุญของทางโครงการฯ
เตรียม ชุดขาวปฏิบัติธรรม ๒-๓ ชุด และของใช้ส่วนตัว เช่น ยาประจำตัว เป็นต้น (กรณีผู้สมัครบวชไม่สามารถหาชุดขาวปฏิบัติธรรมได้ อันเนื่องจากทุนทรัพย์ที่มีจำกัด สามารถแจ้งทางโครงการได้)
ทางโครงการจัดเตรียมของใช้ส่วนตัวให้ผู้สมัครบวชทุกท่านได้ครบทุกอย่างอยู่แล้ว เพียงแค่เอาตัวเองกับชุดขาวปฏิบัติธรรมมา ก็สามารถอยู่วัดได้ แปรงสีฟัน/ยาสีฟัน/ผงซักฟอก/ยาสระผม ทางโครงการก็จัดเตรียมไว้ให้ แต่หากจะนำมาเองด้วยก็สามารถนำมาได้ (ตัวอย่างชุดขาวปฏิบัติธรรมตามรูปด้านล่าง)
ไม่จำกัดอายุ แต่สำหรับผู้ที่อายุมากแล้วจำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเองได้ดี สุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นภาระต่อหมู่สงฆ์ สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า ๒๐ ปี สามารถบวชเป็นสามเณรได้
สำหรับข้าราชการลาบวช อนุโลมให้สามารถบวชพระได้ตามระยะเวลาที่สามารถลาได้สูงสุด แต่ระยะเวลาขั้นต่ำของการบวชต้องครบ ๑ พรรษาเป็นอย่างน้อย (ตั้งแต่วันเข้าพรรษา ถึง วันออกพรรษา)
ได้ ทางโครงการสามารถประสานงานกับทางวัดให้ช่วยออกเอกสารเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการลาบวชได้ สามารถแจ้งทางโครงการได้ที่ช่องทางไลน์ และจะได้รับเอกสารรับรองไม่เกิน 3 วันหลังจากแจ้งความประสงค์
ไม่ได้ ในระเบียบโครงการข้อที่ ๘ ผู้สมัครบวชในโครงการจะไม่สามารถย้ายวัดได้ ตามพระธรรมวินัยพระบวชใหม่ (พระนวกะ) จำเป็นต้องขอนิสัยอยู่กับพระเถระขั้นต่ำไม่น้อยกว่า ๕ พรรษาถึงจะพ้นนิสัยออกธุดงค์ปลีกวิเวกเป็นการส่วนตัวได้ ถ้าจะไปอยู่ที่ใดก็ต้องมีพระเถระคอยให้นิสัยอบรมสั่งสอนใน ๕ พรรษาแรก ทางโครงการได้พิจารณาเลือกวัดที่มีพ่อแม่ครูอาจารย์พระเถระเพื่อให้การอบรมสั่งสอนในการปฏิบัติภาวนาและพระวินัยข้อวัตรปฏิปทาพระกรรมฐานไว้ดีแล้ว การที่พระบวชใหม่จะย้ายวัดตามอำเภอใจโดยไม่พ้นนิสัยจากครูบาอาจารย์ อาจเป็นการขาดความเคารพต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ได้ ทั้งยังสุ่มเสี่ยงต่อการผิดจากหลักธรรมวินัยหากย้ายวัดไปแล้วไม่มีพระเถระคอยดูแลอบรมให้นิสัย ดังนั้นทางโครงการขอสงวนสิทธิ์ ไม่รับผู้ที่ต้องการบวชแล้วขอย้ายวัดในภายหลังทุกกรณี เนื่องจากที่ผ่านมาการขอย้ายวัดก่อให้เกิดความไม่สะดวกหลายประการต่อทางวัดและทางโครงการ จึงขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผู้สมัครบวชที่ประสงค์ย้ายวัดไปยังภูมิลำเนาของตน ทางโครงการขอแนะนำให้ท่านบวชในวัดตามภูมิลำเนาของท่านได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องบวชผ่านในโครงการนี้
ได้ พระที่บวชในโครงการ สามารถยืมโทรศัพท์มือถือส่วนกลางของทางวัดเพื่อใช้ในการติดต่อได้ แต่เรื่องที่ติดต่อต้องเป็นเรื่องสำคัญและเหมาะสมกับการติดต่อเท่านั้น ให้ทางผู้สมัครบวชจดเบอร์โทรศัพท์ของญาติก่อนเข้าวัดเอาไว้
ญาติของพระสามารถ ติดต่อผ่านทางโครงการ ทางไลน์โครงการบวช ไลน์ไอดี @buat แล้วทางโครงการจะเร่งประสานงานกับทางวัดเพื่อแจ้งให้พระรับทราบต่อไป หากเป็นเรื่องที่สำคัญจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกับทางพระเพิ่มเติม ทางพระจะติดต่อกลับไปโดยอาศัยโทรศัพท์มือถือส่วนกลางของทางวัด
โครงการบวชวัดป่า ๑ พรรษา ๑ จีวรกาล เปิดโอกาสให้ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบวชพระได้ตามกำลังศรัทธา เป็นการทำบุญแบบเป็นเจ้าภาพร่วม คือ จะได้เป็นเจ้าภาพบวชพระหมู่ทั้งหมดทุกๆ รูปภายในโครงการ ไม่จำกัดเรื่องจำนวนเงิน มีน้อยทำน้อย มีมากทำมาก หรือตามอัธยาศัยของแต่ละบุคคล โดยเงินทุกบาทที่เข้าบัญชีโครงการจะเป็นไปเพื่อทำบุญในโครงการบวชทั้งหมด รายละเอียดบัญชีทำบุญ คลิกที่นี่
ทังนี้ มีผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากมักสอบถามทางโครงการในเรื่องของ อัฐบริขาร(ผ้าไตรจีวร บาตรพระ ฯลฯ) ต่อการบวชพระ 1 รูป มีค่าใช้จ่ายเท่าไร ? หากเฉลี่ยค่าใช้จ่ายแล้ว อัฐบริขารพระอยู่ที่ 7,500 บาทต่อหนึ่งรูป (เฉพาะอัฐบริขารพระ ยังไม่ร่วมค่าใช้จ่ายอื่นๆ)